เชื่อว่าทุกวันนี้ยังคงมีผู้ใช้รถอยู่อีกจำนวนมาก ที่อาจเคยพบเห็นสัญญาณไฟแจ้งเตือนสว่างขึ้นมาบนหน้าปัดรถ แต่ทว่าบังเกิดความสงสัยว่ามันคืออะไร หรือบางคนเกิดความวิตกกังวลไปเลยก็มี ซึ่งเรื่องนี้เราจะแถลงไขดังต่อไปนี้
โดยส่วนใหญ่แล้วสัญญาณไฟเตือน ไม่ใช่ว่าแจ้งเตือนแล้วจะหมายถึงมีจุดเสียร้ายแรงเสมอไป เพราะไฟเตือนส่วนมากจะแบ่งสีของไฟให้ มีหลายระดับตามความรุนแรง ซึ่งจะแบ่งระดับโทนสีของสัญญาณไฟเตือนได้เป็น 3 สี ที่นิยมใช้กัน ตามแบบสัญญาณไฟจราจร
ไฟเตือนสีเขียว หมายถึง ความปกติปกติของระบบนั้น ๆ เพียงแต่ มันแค่แจ้งให้รู้ว่าระบบนั้นมีความพร้อมที่จะรองรับการใช้งานแล้ว
ไฟเตือนสีเหลือง คือ การแจ้งเตือนถึงความผิดปกติ แต่ทว่ามักจะหมายถึงระดับที่ยังไม่รุนแรงฉุกเฉิน แต่มักจะเตือนเพื่อให้เจ้าของรถนำรถไปตรวจเช็คหาความผิดปกติที่เริ่มก่อตัว ซึ่งควรใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้น
ไฟเตือนสีแดง หมายถึงความปกติกขั้นสูงสุด ไม่ควรขับรถออกไป หรือหากเตือนขึ้นกลางคันก็ควรที่จะหยุดเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุเป็นการเร่งด่วน และหากฝืนอาจเพิ่มความเสียหายหรือนำมาซึ่งอันตรายในการขับขี่ได้
สัญลักษณ์ของไฟเตือนโดยทั่วไปแล้วมักมีอะไรบ้าง
ไฟเบรคมือ
มักจะเตือนในกรณีที่ดึงเบรคมือค้างเอาไว้
ไฟรูปกาน้ำมันเครื่อง
มีไว้เพื่อแจ้งเตือนระดับแรงดันของน้ำมันเครื่องซึ่งส่งผลดีร้ายกับเครื่องยนต์ได้หากส่วนนี้เกิดปัญหา
ไฟเตือนรูปเครื่องยนต์ หรือ Engine Check
ไฟส่วนนี้อาจแสดงผลสว่างขึ้นมาเป็นปกติ แต่ทว่าหากเครื่องยนต์ทำการสตาร์ทติดแล้ว แต่ไฟกลับไม่ดับ แสดงว่ามีปัญหาในส่วนของเครื่องยนต์
ไฟเตือน ABS
ไว้บอกถึงความผิดปกติกับระบบ ABS ซึ่งหมายถึงความปลอดภัยในการเบรกจะลดลง ซึ่งเป็นส่วนที่ควรทำการแก้ไขไม่ควรปล่อยไว้
ไฟรูปแบตเตอรี่
ไฟส่วนนี้จะคอยแจ้งปัญหาเรื่องของไดชาร์จ ความสามารถในการชาร์จไฟ อีกทั้งบ่งบอกถึงการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ ที่อาจถึงเวลาต้องเปลี่ยน
ไฟเตือนระดับความร้อน
ไฟในส่วนนี้จะทำการแจ้งเตือนทั้งในส่วนของรถที่ กำลังมีปัญหาในเรื่องของระบบน้ำหล่อเย็น รวมไปถึงความร้อนของเครื่องยนต์ที่เกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่น ๆ ที่ผู้ขับควรหยุดรถและเร่งตรวจเช็คหรือเรียกช่าง หรือจอดพักลดอุณหภูมิ
อย่างไรก็ตามสัญลักษณ์ไฟเตือนเหล่านี้เป็นแบบเบื้องต้นทั่วไป สำหรับรถยนต์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันโดยสำหรับบางรุ่น อาจจะมีความพิเศษหรือละเอียดหรือแตกต่างกันไป ซึ่งเจ้าของรถควรทำการอ่านศึกษาคู่มือให้ได้ก่อนการใช้รถเดินทางเพื่อความปลอดภัยและเป็นการบำรุงรักษารถ